เอริค คันโตนา
ตัวเร่งปฏิกิริยาให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาเป็นยอดทีมอีกครั้งหลังจากซบเซามานานกล่าวกันว่ามีอยู่ 2 คน รายแรกคือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และอีกรายหนึ่งก็คือ เอริค คันโตนา ตำนานกองหน้าอารมณ์ศิลปินชาวฝรั่งเศสนี่เองที่เขาอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นความเห็นของเหล่าแฟนแมนยูสายเซียนบอลต่อทั้งสิ้น โดยเขาย้ายมาเล่นกับทีมในปี 1990 คันโตนา ได้แขวนสตั๊ดเมื่อปี 1997 ซึ่งตอนนั้นกองหน้าชาวฝรั่งเศสเพิ่งมีอายุ 31 ปีเท่านั้น และเมื่อผ่านไปเพียง 2 ปีคือในปี 1999 แค่ 2 ปีเท่านั้นที่ “ก็องโต้” เลิกเล่นบอลอาชีพไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็สามารถพลิกนรกเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ลงได้สำเร็จที่สนามคัมป์ นู ของการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก
แต่ก็ยังมีหลายคนที่เกิดความสงสัยว่า “ปีศาจแดง” จะยังคงสามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศยุโรปได้หรือไม่ ถ้าหากว่านักเตะรายนี้ ยังอยู่ในทีมของพวกเขาในปี 1999 แม้เขาจะมีความสามารถในการเล่นสูงส่งแค่ไหนก็ตาม เคยผ่านการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาก็หลายครั้ง แต่ในถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกนั้นเหมือนกับว่า มันไม่ใช่เวทีสำหรับ คันโตนา
เขาเคยยิง 2 ประตูจากใน 4 เกมในถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาล 1993-94 แต่ก็ไม่เคยพาทีมเฉียดใกล้กับการคว้าแชมป์ยุโรปเลยในตลอดเวลา 7 ปีที่เขาอยู่กับทีม มันอาจจะเป็นตราบาปสำหรับดาวเตะรายนี้ก็ได้ที่เขาไม่ประสบความสำเร็จในเวทีระดับนานาชาติ หรือในระดับทวีป
รุด ฟาน นิสเตลรอย
ด้วยสถิติการซัลโวประตูได้มากถึง 56 ประตูในถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก มันเลยทำให้ชื่อของเขา ยังคงเป็นนักเตะที่แฟนบอลรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะว่าเขายิงประตูได้มากมายแท้ๆ แต่ว่าก็ยังไม่เคยได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์รายการนี้เลยนั่นเอง “พี่ม้า” รุด ฟาน นิสเตลรอย เป็นกองหน้าตัวเป้าที่ทำประตูได้มากที่สุด แต่ว่า “ไม่เคย” ได้แชมป์ในการแข่งขันรายการนี้เลย แถมสถิติของเขายังโหดอย่างมาก เพราะเขาเคยทำสถิติคว้ารางวัลดาวยิงสูงสุดของแชมเปี้ยนส์ลีกมาครองได้ถึง 3 ครั้งด้วยกัน
กองหน้าตัวเป้าชาวดัตช์รายนี้ ได้ย้ายมาเข้าร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่ทีมดังของพรีเมียร์ลีกคว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้สองปี แล้วสิ่งที่น่าเสียดายอย่างมากเลยก็คือ เขาย้ายออกจากสโมสรไปก่อนล่วงหน้าถึง 2 ปี ก่อนที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้แชมป์ยุโรปมาครองในช่วงกลางปี 2008
และนอกจากนี้ เขาเองก็ยังล้มเหลวในการจะบรรลุเป้าหมายนี้ด้วยการคว้าแชมป์ยุโรปในสีเสื้อของ เรอัล มาดริด อีกด้วย โดยเขาลงเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ถึง 4 ปี เขาเคยได้แค่แชมป์ลีก 2 สมัยติดต่อกันเท่านั้น แต่เขาก็ไม่เคยเฉียดใกล้กับการคว้าแชมป์ยุโรปได้เลย เช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พวกเขาได้แชมป์มาครองหลังจากที่ดาวยิงหน้ายาวรายนี้ได้ย้ายจากทีมไปในช่วงกลางปี 2006
ฟาน นิสเตลรอย เป็นนักเตะสไตล์ตัวทำประตูหมายเลข 9 อย่างแท้จริง เขาคว้าแชมป์ได้ 5 รายการจากในช่วงเวลาเก้าฤดูกาลที่เขาลงเล่นไปถึงสามประเทศ แต่มันก็มีเพียงแชมป์ยุโรปเพียงรายการเดียวที่ดาวยิงรายนี้ไม่เคยเฉียดใกล้ไปสัมผัสกับมันเลย และด้วยความที่ตัวของเขาไม่เคยได้แชมป์ยุโรป มันเลยไม่สามารถที่จะทำให้ ฟาน นิสเตลรอย ก้าวเดินตามรอยเท้าของไอด้อลของเขาอย่าง มาร์โก ฟาน บาสเท่น ตำนานดาวยิงเลือดดัตช์ในการคว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้เลย